วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ร้อย.ปจว.4 ร่วมส่งกำลังใจ ตูน-จิมมี่ เศรษฐีใจบุญบริจาค 16 ล้าน

แฟนๆ เกือบพลาดช๊อตสำคัญ หลังรับมอบเช็ค 16 ล้าน ที่ จิมมี่ เศรษฐีใจบุญบริจาคในนามชาวนครศรีธรรมราช ตูนได้วิ่งต่อไปจนถึงค่ายวชิราวุธ ขณะที่จิมมี่ นั่งคอยในร้าน ไม่มีใครบอกให้รู้ ก่อนที่จะตามไปเจอกันหน้าค่ายฯ มีการกอดขอบคุณสุดซึ้ง...
วันที่ 12.พ.ย. ตูน บอดี้สแลมและคณะนักวิ่ง ก้าวคนละก้าวฯ หลังออกสตาร์ตของการวิ่ง เป็นวันที่ 12 ออกจากหน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ไปตามถนนสาย 408 สงขลา-นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และกองทัพภาคที่ 4 ก่อนมุ่งหน้าเข้าสู่เขตตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามถนนสายราชดำเนิน ผ่านสี่แยกหัวถนน ผ่านหน้า รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งมีบรรดาแพทย์พยาบาลจาก รพ.ต่างๆ ทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราช มายืนรอนำเงินบริจาครวมประมาณเกือบ 1 ล้านบาท มามอบให้ตูน รวมถึงชาวบ้านจำนวนมากร่วมบริเวณบริจาคเงินตลอดเส้นทาง
เวลา 13.00 น. ตูน และคณะได้วิ่งมาถึงหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารอ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดที่ได้กำหนดมอบตั๋วแลกเงิน จำนวน 16 ล้านบาท ของนายจิมมี่ ชวาลา นักธุรกิจค้าผ้า เศรษฐีใจบุญชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทนมอบในนามชาวนครศรีธรรมราช มอบตั๋วแลกเงิน จำนวน 16 ล้านบาท ให้ตูน บอดี้สแลม ทันที โดยไม่มีตัวนายจิมมี่ ชวาลา เจ้าของเงิน 16 ล้านบาท มาร่วมมอบด้วยแต่อย่างใด โดยนายจิมมี่อ้างว่าต้องการให้ทุกคนมีความสุขกับ ตูนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องการให้มาเสียเวลากับตนในวันนี้
จากนั้น ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้มอบเสื้อนครศรีดี๊ดีนครศรีดีกว่าเดิมให้ตูนด้วย นอกจากนี้นางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และคณะ ได้นำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชนชาวสุไหงโก-ลก จำนวน 305,000 บาทมอบให้ตูนด้วย ขณะเดียวกันได้มีพระสงฆ์จากวัดหน้าพระลาน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มอบเงินและวัตถุมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตูนด้วย รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีการมอบเงินให้ตูนกัน อย่างคึกคัก และก่อนหน้านั้น นายวาที ทรัพย์สิน บุตรชายนายหนังตะลุงสุชาติ ทรัพย์สิน อดีตศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ และเจ้าของพิพิธภัณฑ์นายหนังสุชาติ ทรัพย์สิน ได้นำตัวหนังตะลุงที่แกะเป็นตัวของตูน บอดี้สแลม ในท่าทางกำลังวิ่งมาประมูลด้วย ซึ่งเจ้าของโรงแรมแมนดี้นกนครศรีธรรมราช ประมูลได้จำนวน 30,000 บาท นำเงินมอบให้ตูนทั้งหมด ส่วนผู้ที่ประมูลได้รับรูปหนังตะลุงพร้อมลายเซ็นของตูนเป็นที่ระลึก
จากนั้นตูน บอดี้สแลมได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวนครศรีธรรมราช และชาวไทยทั่วประเทศที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อย เพื่อสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าว ยอมรับว่าตอนนี้ ตนไม่มีเสียงแล้ววิ่งจนเสียงแห้งต้องขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย ที่ไม่ได้ยินเสียงตนได้ชัดเจนในวันนี้ ตูน บอดี้สแลม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้บริจาคกว่า 180 ล้านบาทแล้ว หากเอารวมกับของคุณจิมมี่ในวันนี้ 16 ล้านบาท และของชาวนครศรีธรรมราชในวันนี้น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทแล้ว ซึ่งตนต้องการได้เงินคนละเล็กคนละน้อยจากคนจำนวนมาก ไม่ประสงค์เงินจำนวนมากจากคนจำนวนน้อย ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วม และหันมาอออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันเยอะๆ และถึงแม้ว่าตนจะวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย ตนก็ยังไม่เหนื่อยเท่ากับหมอและพยาบาล ตนไม่ใช่ฮีโร่ แต่ผู้ที่เป็นฮีโร่คือคุณหมอและพยาบาล
ขอให้กำลังใจแก่คุณหมอและพยาบาล ต่อไปอยากจะขอให้ทุกคนที่มาร่วมต้อนรับตนได้เปลี่ยนจากตูนสู้ๆ ให้กล่าวคำว่า คุณหมอสู้ๆ พยาบาลสู้ๆซึ่งขอให้เริ่มตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นต้นไป ก่อนที่ตูนได้กล่าวนำเป็นต้น

เสียง คุณหมอสู้ๆ พยาบาลสู้ๆมีผู้กล่าวตามดังกึกก้องบริเวณลานโพธิ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นตูนได้ลงจากเวทีแล้วไปพักผ่อน และทำการบำบัดร่างกายในรถนานประมาณ 1 ชั่วโมงจนเวลา 15.00 น. ตูน ได้วิ่งต่อจากหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ไปตามถนนราชดำเนินเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้าของจังหวัด โดยเฉพาะตูนได้มีการวิ่งผ่านร้านผ้า จิมมี่ของนายจิมมี่ ชวาลา บริเวณสี่แยกท่าวัง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีประชาชนจำนวนมากนับพันคน มารอบริเวณหน้าร้านจิมมี่ และตลอดสองข้างทางเต็มมืดไปหมด แต่ปรากฏว่าตูนและคณะได้วิ่งผ่านร้านจิมมี่ไป โดยไม่ได้แวะเข้าไปกราบขอบคุณคุณจิมมี่ ซึ่งคุณจิมมี่นั่งคอยต้อนรับอยู่ภายในร้าน ท่ามกลางการบ่นเสียใจของชาวนครศรีธรรมราชที่ไม่ได้เห็น ตูนเข้าไปกราบขอบคุณคุณจิมมี่ภายในร้านจิมมี่ เมื่อวิ่งผ่านร้าน โดยมีการโทษถึงทีมงานไม่ได้แนะให้คุณตูนแวะเข้าไปในร้านจิมมี่ กลับวิ่งผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดายอย่างไรก็ตาม หลังวิ่งไปตามถนนราชดำเนิน ก่อนถึงเข้าค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อกราบไหว้อนุสาวรีย์วีรไทยหรือพ่อจ่าดำ โดยมีคณะของรองแม่ทัพภาค 4 คอยให้การต้อนรับ จิมมี่ ได้เดินทางมาพบกับตูน ตรงเข้าไปกอด หอมที่ศีรษะ พร้อมถอดด้ายที่ผูกข้อมือ ผูกให้กับตูนด้วย จากนั้น จิมมี่ พร้อมลูกชาย ได้วิ่งคู่กับตูน มุ่งหน้าเข้าค่ายวชิราวุธ จากนั้นจิมมี่ ได้กล่าวขอบคุณตูน ที่เสียสละทำในสิ่งที่ดีเพื่อโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในการช่วยเหลือชีวิตคนต่อไป เป็นการช่วยชีวิตต่อชีวิตนับเป็นโครงการที่ดีมากที่ตนขอชื่นชม โดยทั้งคู่ใช้เวลาคุยกันนานประมาณ 10 นาที จากนั้นทั้งตูนและจิมมี่ ได้พากันกราบไหว้อนุสาวรีย์พ่อจ่าดำ ก่อนเดินทางกลับ โดยตูนจะหยุดนอนพักผ่อนที่บ้านหน้าทับ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นจุดสุดท้ายในค่ำคืนนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น