วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

คนไทยเก็บภาพประวัติศาสตร์ในหลวง ร.10ทรงราชย์ ซื้อหนังสือพิมพ์เกลี้ยงแผง


ประชาชนชาว จ.ชัยนาท ทั้งในเมืองนอกเมือง แห่มารอซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับประวัติศาสตร์ วันขึ้นครองราชย์รัชกาลที่ 10 เจ้าของร้านสั่งเพิ่ม 5 เท่าของยอดขายปกติไม่ถึงเที่ยงเกลี้ยงแผง...
เช้าเมื่อ 2 ธ.ค.59 ประชาชนชาว จ.ชัยนาท ทั้งในตัวอำเภอเมือง และอำเภอข้างเคียง ทยอยออกมาหาซื้อหนังสือพิมพ์รายวันฉบับต่างๆ ที่หน้า 1 วันนี้ ได้ตีพิมพ์ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร ทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี หลังจากที่คณะบุคคลที่นำโดยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้กราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จขึ้นทรงราชย์ เมื่อคืนวันที่ 1 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่มาซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับประวัติศาสตร์ บอกว่าต้องการที่จะซื้อหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์ภาพประวัติศาสตร์นี้ไว้ เป็นที่ระลึกแห่งความจงรักภักดีในการเปลี่ยนรัชกาล ซึ่งหลายคนบอกว่าคงไม่มีโอกาสอีกแล้วในชีวิตนี้ที่จะได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์แบบนี้
ในโอกาสมหามงคลเช่นนี้ หนังสือพิมพ์ทุกหัวต่างตีพิมพ์ภาพประวัติศาสตร์ไว้บนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ รวมทั้งภาพหน้าใน และจากการคาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมาหาซื้อจำนวนมาก ทางร้านขายหนังสือพิมพ์จึงสั่งหนังสือพิมพ์เพิ่ม
จากยอดขายปกติถึง 5 เท่า คาดว่าหนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่สั่งมาจะใช้เวลาไม่เกินเที่ยงวันของวันนี้ จะมีคนมาซื้อจนหมดเกลี้ยงแผงแน่นอน
นายไสว แสงทอง อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า ในส่วนตัวนั้น รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว แม้ว่าตนจะรักเคารพพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 มาก จนในใจคิดว่าพ่อหลวงยังไม่จากเราไปไหน ถึงอย่างไรก็ตามประเทศจะขาดพระราชาไม่ได้ โดยส่วนตัวแล้วไม่ว่าจะรัชกาลใด ถ้าเราเกิดเป็นคนไทย ก็จะต้องเทิดทูนพระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้า เพราะนั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้คนต่างชาติเห็นว่า เราคือคนไทย.

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

การสลาม จับมือในทัศนะอิสลาม


การสัมผัสมือของคนศาสนาอิสลามมีหมายความว่าอย่างไรและสัมผัสแล้ว บางคนก็แตะมือที่หน้าอก บางคนก็รูปที่ใบหน้าตนเอง?
คำตอบ : การสัมผัสมือของชาวมุสลิม(ผู้นับถือศาสนาอิสลาม) เป็นการทักทายกัน
เมื่อมุสลิมพบปะกันจะกล่าวสลามซึ่งกันและกันและสัมผัสมือกัน เพราะเป็นแนวทางของท่านรอซูลศ็อลลัลลอฯ(ศาสดามูฮัมหมัด) ได้มีแบบอย่างไว้ ซึ่งควรปฏิบัติดังนี้
1.เมื่อพบปะกันให้ทักทายกัน ว่า “อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะหฺมะตุลลอฮิวะบะรอกาตุฮฺ” หรือสลามกันสั้นๆว่า “อัสลามมุอะลัยกุม” ความหมายก็คือว่า “ขอสันติสุข,ความเมตตาปรานีและความเป็นสิริมงคลจากพระองค์อัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน”
2.ผู้ถูกทักทายให้กล่าวตอบ “วะอะลัยกุมมุสลามวะเราะหฺมะตุลลอฮิ วะบะรอกาตุฮฺ” หรือที่กล่าวกันสั้นๆว่า “วะอะลัยกุมุสลาม” ก็มีความหมายว่า “ขอความสันติสุข,ความเมตตาปรานีและความเป็นสิริมงคลจากพระองค์อัลลอฮฺ จงมีแด่ท่านเช่นกัน”
3.เด็กกล่าวสลามแก่ผู้ใหญ่
4.คนเดินกล่าวสลามแก่คนนั่ง
5.ผู้ที่ขี่พาหนะกล่าวสลามแก่คนเดิน
6.คนจำนวนน้อยกล่าวสลามแก่คนจำนวนมาก
7.กล่าวสลามเมื่อเข้าไปในที่ประชุม และเมื่อออกจากที่ประชุม
8.ไม่กล่าวสลามแก่ผู้ที่ละหมาด หรือผู้ที่กำลังรับประทานอาหาร ผู้ที่อยู่ในห้องน้ำ

9.ในการสัมผัสมือ ให้ผู้ชายสัมผัสมือกับผู้ชาย และผู้หญิงสัมผัสมือกับผู้หญิง ขณะสัมผัสมือให้กล่าวว่า “อัลลอฮุมม่า ศ็อลลิอะลา มูฮัมหมัด (โอ้อัลเลาะห์ ขอพระองค์ทรงประทานพรแด่ท่านนบีมูฮัมหมัด)”
ไม่อนุญาตให้ผู้ชายและผู้หญิงสัมผัสมือกัน นอกจากจะเป็นญาติพี่น้องที่แต่งงานกันไม่ได้
10.สัมผัสมือกันด้วยมือขวา
11.ไม่รีบปล่อยมือ หรือดึงมือกลับจนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะดึงมือกลับ หรือปล่อยมือ
นี่คือมารยาทพื้นฐานในการทักทายกันของอิสลามด้วยกันเท่านั้น คนที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลามถ้ากล่าวคำทักทายอย่างนี้กับคนอิสลาม จะเป็นการสร้างความอึดอัดให้กับคนอิสลาม
- ส่วนเรื่องการจับมือแล้วนำมือมาลูบหน้าหรือลูปที่หน้าอกนั้น ท่านรอซูลศ็อลลัลลอฮฺฯ ไม่ได้มีแบบอย่างไว้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องของอาดัต(ประเพณี) ที่มุสลิมกระทำเพื่อให้เกียรติต่อกัน บางครั้งการจับมือสลามนั้นผู้น้อยจะทำการจับมือพร้อมกับจูบมือผู้อาวุโสผู้มีคุณธรรม ได้รับความสิริมงคล(บะรอกัต) จึงเอามือมาลูบหน้าหรือหน้าอกเพื่อให้การวอนขอและความสิริมงคลกลับมา(สู่ใบหน้า)

ควันหลงวันรายอ อีดิลฟิตรี2561



เมื่อ 14 มิ.ย.61 สำนักจุฬาราชมนตรีได้กำหนดให้เป็นวันดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันอีดิลฟิตรี ประจำ ฮศ.1439 ตรงกับปี พ.ศ.2561 โดยจะทำการดูดวงจันทร์ในเวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากมีผู้เห็นดวงจันทร์ แสดงว่า วันที่ 1 เดือนเชาวาล (วันอิดิลฟิตรี) ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน 2561 หากไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์ วันอิดิลฟิตรี จะตรงกับวันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2561
วันอีดิลฟิตรี
วันอีดิลฟิตรี เป็นวันฉลองการสิ้นสุดเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม โดย ชาวมุสลิมมักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใสสวยงาม และส่งเสริมให้พบปะพ่อแม่ญาติพี่น้อง เพื่อทำการกล่าวขออภัยจากผู้อาวุโสกว่า หรือบุคคลที่เคยกระทำผิดไปในรอบปีที่ผ่านมา
ทำให้ประชาชนชาวมุสลิมเริ่มเตรียมตัว ออกไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้า เครื่องประดับใหม่ เพื่อนำไปสวมใส่ในวันอีดิลฟิตรี อย่างเช่นประชาชนละแวกเทศบาลนครยะลา ที่มีพี่น้องประชาชนเดินทางไปเลือกซื้อสร้อยทองคำ เสื้อผ้า ผ้าโสร่ง รองเท้า เสื้อโตป หมวกกาปีเยาะ ซึงเป็นเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม
ถึงแม้การจับจ่ายใช้สอยจะดูคึกคัก แต่เจ้าของร้านค้าหลายแห่ง ให้ข้อมูลว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคายางตกต่ำ ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายน้อยกว่าปีที่ผ่านมา