กว่า
50 ปีแล้วที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงมีพระราชดำรัสให้จุฬาราชมนตรี นำพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานของศาสนาอิสลาม มาแปลความหมายเป็นภาษาไทย
กระทั่งพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับแปลไทย เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก
ทำให้ชาวไทยมุสลิมคนรุ่นหลังได้รู้ความหมายคัมภีร์สำคัญของศาสนา
เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิตประจำวัน
ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนการละหมาดเป็นหนึ่งในพิธีสำคัญที่พวกเขาทำทุกวันเพราะนี่เป็นการประกอบกิจบูชาสักกาพระระอัลลอฮฺ
ด้วยการอ่านบทสรรเสริญ และการวิงวอน ไม่ได้มีเพียงพิธีกรรมสำคัญต่างๆ
เท่านั้น ที่จำเป็นต่อชาวไทยมุสลิมส่วนการศึกษาคำสอนจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน
ซึ่งเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาอิสลามก็มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศไทยเช่นกัน
นิมู มากาเจ เล่าให้เราฟังว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงมีพระราชดำริว่าพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาอิสลาม
และเป็นวรรณกรรมที่สำคัญของโลกเรื่องหนึ่งซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ
อย่างแพร่หลายหากมีการแปลความหมายเป็นภาษาไทยด้วยก็จะช่วยให้ชาวไทยมุสลิมที่ไม่รู้ภาษาอาหรับหรือไม่ก็คนไทยที่สนใจสามารถศึกษาคำสอนของศาสนาอิสลามได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น
อดีตล่ามที่เคยถวายงานให้กับ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังเล่าให้ฟังอีกว่า พระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ นาย ต่วน
สวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีในสมัยนั้น แปล
และขยายความพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากภาษาอาหรับให้เป็นภาษาไทย
ก่อนจะพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการจัดพิมพ์พระมหาคัมภีร์อัลกุละอานเผยแพร่ในระยะแรกกระทั่งเป็นพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานแปลไทยต้นแบบ
ปัจจุบันชาวไทยมุสลิมได้ใช้ประโยชน์จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทย
อันเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้เป็นหลักคำสอนให้ทุกคนได้ปฏิบัติตนเป็นคนดีตามหลักของศาสนา
โดยชาวไทยมุสลิมทุกคนต่าง รำลึกใน
พระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หาที่สุดมิได้
ในวันที่
13 พฤศจิกายน 2559 มีรายงานว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีกำหนดจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดปัตตานี
ในวันที่ (14 พฤศจิกายน)
เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานถ้วยรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ
ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทรงพระกุรณาโปรดเกล้าฯ เดิมไว้ให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานโล่เกียรติคุณ
และเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด
และอิหม่ามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2558 รวมทั้งผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้
ประจำปี 2558 ที่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี
ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้
ถือเป็นพระราชกรณียกิจต่อเนื่องจากที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิม
โดยครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสให้แปลคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย
และวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2511
เป็นวันแรกที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับความหมายภาษาไทยได้ถูกจัดพิมพ์ขึ้นถวาย
และได้พระราชทานแก่มัสยิดทั่วประเทศ
ทั้งนี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสในงานเฉลิมฉลอง 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอานไว้ว่า คัมภีร์อัลกุรอาน
มิใช่จะเป็นคัมภีร์ที่สำคัญในศาสนาอิสลามเท่านั้น
แต่ยังเป็นวรรณกรรมสำคัญของโลกเล่มหนึ่งซึ่งมหาชนรู้จักยกย่อง
และได้แปลเป็นภาษาต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย